วันพฤหัสบดีที่ 9 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2555

บันทึกการเรียนครั้งที่5 วันที่ 05/01/55

วันพฤหัสบดี ที่ 5 มกราคม พ.ศ.2555

- วันนี้ไม่มีการเรียนการสอน อาจารย์ให้นักศึกษาทำ Powerpoint  เกี่ยวกับนิทานที่นักศึกษาไปเล่าให้น้องฟังแล้วนำเสนอสัปดาห์ถัดไป

  
หลักการเลือกนิทานให้เด็ก
นงค์นุช แน่นอุดร

          การเลือกนิทานสำหรับนำมาเล่าหรืออ่านให้เด็กอายุต่ำกว่า 6 ปีฟัง เป็นเรื่องที่พ่อแม่หรือครูจะต้องพิถีพิถันและพิจารณาเรื่องที่จะนำมาเล่าให้รอบคอบ ทั้งนี้เพราะการฟังนิทานเป็นกิจกรรมที่จะส่งผลกระทบถึงจิตใจและพฤติกรรมของเด็ก นิทานที่ควรเลือกมาเล่าให้เด็กฟัง มีดังนี้
          1. นิทานจะต้องเหมาะสมกับวัย ความพร้อมและวุฒิภาวะของเด็ก เด็กยิ่งเล็ก เนื้อเรื่องของนิทานจะต้องเป็นเรื่องที่แสดงข้อเท็จจริงเพื่อให้เด็กเกิดความคิดรวบยอดที่ถูกต้อง สำหรับเด็กโตครูควรนำเรื่องที่แปลกๆ มหัศจรรย์เพ้อฝันมาเล่าและไม่ควรจะเป็นเรื่องที่ซ้ำกับเรื่องเดิม
          2. นิทานควรจะได้มีส่วนในการกระตุ้น ปลุกเร้าจินตนาการของเด็ก เนื้อหาควรจะมีสิ่งที่เป็นสุนทรียภาพความงดงาม ตื่นตาตื่นใจปรากฏอยู่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงที่เด็กอยู่ในช่วงอายุ 4 – 6 ขวบ ซึ่งเป็นช่วงที่เด็กกำลังพัฒนาความคิดเชิงจินตนาการ ดังนั้นการเลือกนิทานมาเล่าหรืออ่านให้เด็กวัยนี้ฟัง ควรจะเลือกเรื่องที่มีการพรรณนาถึงความงดงามของธรรมชาติ ลักษณะที่แปลกประหลาดน่าพิศวงของสัตว์ ความงดงามของนางฟ้าหรือความน่าเกลียดน่ากลัวของแม่มด ความน่ารักน่าเอ็นดูของสัตว์ตัวเล็กๆ ฯลฯ
          3. นิทานที่นำมาเล่าหรืออ่านให้เด็กปฐมวัยฟัง จะต้องเป็นวรรณกรรมที่ดีทั้งโครงเรื่องพฤติกรรมที่เด่นชัดของตัวละคร แนวความคิดที่สร้างสรรค์ และภาษาที่เหมาะสมชัดเจน ง่าย และเป็นภาษาที่สุภาพเสนอแนะวิธีการแก้ปัญหาแก่เด็กๆ ในการเผชิญอุปสรรคและความยากลำบากด้วยวิธีการที่สร้างสรรค์ใช้ความพากเพียร มานะอดทน และสติปัญญาในการแก้ไขปัญหา
          4. เลือกนิทานที่มีเนื้อหาหลากหลาย ตัวละครเอกอยู่ในวัยเดียวกับเด็ก แม้ว่าตัวละครจะเป็นสัตว์ก็ต้องมีพฤติกรรมที่มีลักษณะเป็นเด็กเช่นเดียวกับผู้ฟัง ในการเลือกนิทานมาเล่าหรืออ่านแต่ละครั้งควรจะให้มีเนื้อเรื่องที่แตกต่างกันออกไปหลายๆ แนว สำหรับเด็กเล็กๆ อาจจะต้องการฟังเรื่องเดิมซ้ำๆ ได้ แต่ถ้าเป็นเด็กที่โตแล้วการนำเรื่องแนวเดียวกันมาเล่าบ่อยๆ จะทำให้เขาเบื่อหน่ายได้
          5. นิทานที่ดีควรจะมีการแทรกบทตลกขบขัน แต่ต้องเป็นบทตลกที่ไม่หยาบคายสิ่งที่ครูควรระมัดระวังเป็นอย่างยิ่งคืออย่าเลือกนิทานที่มีบทตลกขบขันที่มีลักษณะเป็นการ กลั่นแกล้งให้ผู้อื่นเจ็บปวด เป็นบทตลกที่อยู่บนความอับอายของผู้อื่น ซึ่งลักษณะเช่นนี้อาจจะทำให้เด็กเอาอย่างได้
          6. นิทานที่มีเนื้อหาสาระที่มุงให้เด็กขยายประสบการณ์ ได้รับข้อมูลข่าวสารแปลกใหม่ก็เป็นนิทานที่ครูสมควรจะเลือกมาเล่าให้เด็กๆ ฟังโดยพิจารณาให้เหมาะสมกับช่วงอายุ วุฒิภาวะและประสบการณ์พื้นฐานเดิมของเด็ก
          7. นิทานที่สมควรแก่การเลือกมาเล่าหรืออ่านให้เด็กฟังควรจะเป็นนิทานที่ช่วยปลูกฝังลักษณะนิสัยที่ดีงามให้แก่เด็กๆ ลักษณะตัวเอกที่ปรากฏในนิทานจะต้องเป็นตัวแบบที่ดีสำหรับเด็กๆ หรืออาจจะเป็นตัวแบบที่มีพฤติกรรมไม่ดีในเบื้องต้น แล้วกลับแปรเปลี่ยนนิสัยไปในทางที่ถูกต้องดีงาม มีจรรยามารยาทน่าชื่นชม และมีพฤติกรรมที่สังคมยอมรับในที่สุด
          สิ่งสำคัญที่สุดในการอ่านหรือเล่านิทานให้เด็กฟังก็คือ สายสัมพันธ์คนเล่ากับเด็กดังนั้นเด็กที่ได้ฟังนิทานบ่อยๆจะเติบโตมาเป็นเด็กที่มีพัฒนาการทางอารมณ์ดี สามารถปรับตัวและอยู่ร่วมกับสังคมได้ดีกว่าเด็กที่ไม่ได้รับการเอาใจใส่จากพ่อแม่ผู้ปกครอง

ที่มา http://thaifairytale.blogspot.com/2010/06/blog-post.html

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น